ความยั่งยืนเป็นรากฐานสำคัญของหลักจริยธรรมทางธุรกิจยุคใหม่ ผู้ประกอบจำนวนมากหันมาใช้แนวคิดด้านความยั่งยืนซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์แล้ว ยังเป็นตัวช่วยให้กับธุรกิจในกระบวนการทำงาน (Operations) โดยเฉพาะในเรื่องบรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเองไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าแต่ยังช่วยเพิ่มความถี่ในการซื้อให้กับผลิตภัณฑ์อีกด้วย จากผลการสำรวจของ Trivium Packaging พบว่า 74% ของผู้บริโภคกล่าวว่า “พวกเขาจะยอมจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน” และ 1 ใน 4 ของผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเพิ่มมากขึ้นถึง 10% จากราคาสินค้าปกติ หรือเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น
นอกจากนี้พบว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจมุมมองและพฤติกรรมของผู้บริโภคต่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 55% ยินดีที่จะจ่ายเพิ่มมากขึ้นถึง 20% จากราคาสินค้าปกติ จากผลการสำรวจที่กล่าวมา จึงแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันนี้ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มตระหนักถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าที่คำนึงถึงความยั่งยืน
ซึ่งสำหรับธุรกิจนั้น นอกจากจะให้ความสำคัญกับโลกแล้ว การทำให้บรรจุภัณฑ์สอดคล้องกับแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังช่วยกำจัดองค์ประกอบของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นและสิ้นเปลืองออกไป ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจ ในทางกลับกัน การที่จะปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้มีความยั่งยืนนั้น แม้ว่าตอนเริ่มต้นอาจดูยุ่งยากแต่เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งหมดในทีเดียว และต่อไปนี้คือ 5 วิธีง่ายๆ ในการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
วิธีที่ง่ายที่สุดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คือการเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพืช รวมไปถึงกล่องกระดาษที่ใช้แทนพลาสติก หมึกจากถั่วเหลืองใช้แทนหมึกน้ำมัน และการนำวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วมารีไซเคิลใหม่
การใช้กระดาษแข็งเป็นขั้นตอนแรกของการรีไซเคิล และหากคุณต้องการใช้พลาสติก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นพลาสติกชีวภาพรือพลาสติกที่ย่อยสลายได้ (Bioplastic หรือ Biodegradable Plastic) ถึงแม้ว่าพลาสติกชีวภาพจะมีราคาที่ไม่ได้ถูกนัก แต่ราคาก็มีแนวโน้มที่จะลดลง เช่นเดียวกับการผลิตที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีบริษัทจำนวนมากที่ต้องการวัสดุเหล่านี้มาใช้ในงานบรรจุภัณฑ์ของตนเอง
ถึงแม้ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษแต่มันก็ไม่สามารถย่อยสลายชีวภาพได้ 100% เนื่องจากมีการเคลือบที่ผิวหนังชั้นบนสุดของบรรจุภัณฑ์
การเคลือบเป็นกระบวนการของการติดฟิล์มพลาสติกใสกับบรรจุภัณฑ์หรืองานพิมพ์ เพื่อปกป้องและปรับปรุงรูปลักษณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าพลาสติกเหล่านี้ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่สามารถเลือกใช้วิธีการเคลือบเงาวานิชแทนได้ โดยวานิชเป็นหมึกใสที่ใช้เคลือบบางๆ บนบรรจุภัณฑ์และงานพิมพ์เพื่อปกป้องและปรับปรุงรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้วานิชสูตรน้ำยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly)
อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้กระดาษทนแดดและทนฝน (Weatherproof Paper), ใช้กระดาษคราฟท์ และใช้การพิมพ์ลามิเนตที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ แต่สิ่งเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะราคาแพงกว่าการเคลือบแบบปกติ และอาจทำให้ต้นทุนทางบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น
หากคุณเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากพืชและไม่ใช้วิธีการเคลือบลามิเนต คุณจะสามารถก้าวไปอีกขั้น และยังทำให้บรรจุภัณฑ์สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะไม่ทิ้งบรรจุภัณฑ์ของคุณทันทีที่เปิดใช้งาน
ในขณะที่คนกลุ่ม Millennium (กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2527 - 2539 หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Gen Y) นั้นได้เรียกร้องผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน H&M จึงได้ออกแบบแนวคิดทางบรรจุภัณฑ์เสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ ออกแบบไม้แขวนเสื้อโดยไม่ใช้ไม้แขวนพลาสติก และส่งเสริมให้ลูกค้าเริ่มใช้วัสดุรีไซเคิลสำหรับแขวนเสื้อผ้าแทน แคมเปญนี้โดนใจผู้บริโภคเป็นอย่างมากและทำให้ลูกค้าของ H&M กลับมาซื้อซ้ำอีก
นอกจากนี้ทาง Six Realms ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องประดับแฟชั่นที่ยั่งยืนจากแคนาดา ได้ออกแบบกล่องที่สามารถพับได้เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถจัดเก็บกล่องเมื่อไม่ได้ใช้งาน ซึ่งตัวกล่องยังมีความแข็งแรงทนทาน สำหรับการถือ, ขนส่งสินค้า และ ต้านทานรอยขีดข่วนและรอยบุบเมื่อจัดเก็บอีกด้วย
นอกจากตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว วิธีการขนส่งก็เป็นสิ่งสำคัญในการที่จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากพูดถึงประเภทการขนส่งนั้น การขนส่งทางอากาศมักจะเป็นตัวเลือกที่ถูกเลือกมากที่สุดในการขนส่งทั้งหมด เนื่องจากเป็นหนึ่งในวิธีการที่เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามการขนส่งทางอากาศนี้ก็เป็นสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซคาร์บอนเช่นกัน
ซึ่ง จากผลการวิจัยของ International Transport Forum (ITF) หรือ องค์การการขนส่งระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งสินค้าจะเพิ่มขึ้น 290% ภายในปีพ.ศ. 2593 หรือ ค.ศ. 2050
ดังนั้นหากเรื่องเวลาไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัจจัยหลักในการขนส่งของธุรกิจ ลองเปลี่ยนมาใช้การขนส่งสินค้าทางเรือ โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบเรื่องระยะเวลาในการรอสินค้า (Lead Time) สำหรับบรรจุภัณฑ์และการสั่งซื้อล่วงหน้า อีกหนึ่งสิ่งที่ควรทราบคือ การขนส่งสินค้าทางเรือมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการขนส่งทางอากาศมาก
การสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนให้กับลูกค้าของธุรกิจไม่เพียงแต่เป็นแค่วิธีในการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) อีกด้วย หากคุณออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายเองได้ ควรเพิ่มคำแนะนำเพื่อให้ง่ายต่อการที่ลูกค้าจะได้ทราบถึงวิธีการ และสื่อสารให้ลูกค้าทราบถึงความพยายามของแบรนด์ที่มีต่อสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน รวมถึงการเน้นย้ำถึงคุณค่าของแบรนด์ (Brand Values) โดยการโปรโมทลงบนโซเชียลมีเดียและคำแนะนำ “วิธีการใช้” หรือ “How-to” ลงบนเว็บไซต์ของแบรนด์
การเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนไม่จำเป็นต้องปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด ควรดำเนินการทีละขั้นตอน เพิ่มการนำวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำและวัสดุที่รีไซเคิลได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรักษาการเคลื่อนไหวของลูกค้า ไม่เพียงแต่แบรนด์เท่านั้นที่จะได้รับผลประโยชน์แต่ลูกค้าของแบรนด์ก็จะรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่แบรนด์ทำด้วยเช่นกัน
แหล่งที่มา
Sustainable Packaging Examples