บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ หรือ Smart Packaging เป็นการพัฒนาบรรจุภัณฑ์โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ดังนั้นบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะจึงมีประสิทธิภาพและความสามารถมากกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วไปในอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่จะมี 2 ประเภท ได้แก่ บรรจุภัณฑ์แอคทีฟ (Active packaging) และ บรรจุภัณฑ์ฉลาดหรืออัจฉริยะ (Intelligent packaging)
ทำหน้าที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา วงจรการใช้งานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดเก็บและการขนส่ง ซึ่งในกรณีนี้เทคโนโลยีที่ใช้ต้องใช้วัสดุที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิ ป้องกันและกำจัดสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างของบรรจุภัณฑ์แอคทีฟ ได้แก่ การกำจัดก๊าซ การควบคุมความชื้น การควบคุมอุณหภูมิ และการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
เป็นการเพิ่มฟังก์ชันอัจฉริยะที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบรรจุภัณฑ์ ทำให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น (Customer Experience) หนึ่งในตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดของบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ คือ การใช้ NFC Tags (Near Field Communication) เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Bluetooth และ การใช้บาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์เพื่อทำให้สะดวกต่อการขนส่งและสื่อสารกับผู้บริโภค
นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์มูลค่าตลาดของบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ จาก Precedence Statistics พบว่า
ปี 2024 บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะจะมีมูลค่าตลาด 39.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปี 2025 บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะจะมีมูลค่าตลาด 41.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี
ปี 2032 บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 60.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะจะเป็นอนาคตของของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังมาพร้อมประโยชน์มากมายที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ และช่วยดึงดูดลูกค้าได้
บรรจุภัณฑ์แอคทีฟจะช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์ของคุณตั้งแต่ออกจากโรงงานผลิตไปจนถึงมือลูกค้า และยังสามารถช่วยป้องกันปัจจัยที่เป็นอันตรายต่อผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น ความชื้น สารที่เป็นอันตรายที่มาจากสภาพแวดล้อมใกล้เคียง และอันตรายจากแสง บรรจุภัณฑ์แอคทีฟจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษา (shelf life) ได้นานขึ้น ทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และช่วยรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์
การทำให้บรรจุภัณฑ์เป็นบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะบางทีก็เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ แต่ส่วนใหญ่แล้วต้นทุนจะถูกชดเชยด้วยประโยชน์ที่ได้รับจากในห่วงโซ่อุปทาน โลจิสติกส์ การจัดเก็บสินค้าหรือแม้แต่การขาย เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ทำให้การจัดเก็บและการขนส่งเป็นเรื่องที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในทำนองเดียวกันนั้น การผลิตจะตัดวัสดุที่มีขนาดใหญ่ที่เป็นการเพิ่มน้ำหนักบรรจุภัณฑ์โดยไม่จำเป็น ดังนั้นบรรจุภัณฑ์แอคทีฟจึงมีน้ำหนักเบาและทนทาน
บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะนั้นยังเพิ่มมูลค่าให้กับการทำการตลาด ซึ่งจะทำให้คุณโดดเด่นจากคู่แข่ง จากจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์และเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ เนื่องจากผู้บริโภคชาวอเมริกันกว่า 72% กล่าวว่าบรรจุภัณฑ์มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขา
ด้วยการตลาดที่ดีขึ้นย่อมทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำแบรนด์ได้ การมีบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะที่เหมาะสมจะสะท้อนถึงการลงทุน คุณภาพ และความมั่นใจที่แบรนด์มีต่อผลิตภัณฑ์ของตน ลูกค้าที่สังเกตเห็นสิ่งนี้ไม่เพียงแต่มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เพียงตัวเดียว แต่ยังถ่ายทอดความรู้สึกเดียวกันนี้ไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแบรนด์ ทำให้พวกเขากลายเป็นลูกค้าประจำ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงทำให้แบรนด์มีความยั่งยืนที่มากขึ้นดังนั้นจึงส่งเสริมให้มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
การพัฒนาบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะขาย, ส่วนผสมที่ใช้กับผลิตภัณฑ์, เงินทุนที่มีอยู่ และเหตุผลอื่นๆ อย่างไรก็ตามตัวอย่างต่อไปนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับแบรนด์ในการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์
Milka แบรนด์ช็อคโกแลตแสนอร่อย ได้เปิดตัวกระดาษห่อช็อคโกแลตวันคริสต์มาสที่ขับเคลื่อนด้วย AR (Augmented Reality) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกัน โดยเป็นกระดาษในรูปแบบของปฎิทินนับถอยหลังสู่วันคริสต์มาส พร้อมกับเปิดประสบการณ์ให้ลูกค้าได้ลิ้มรสช็อคโกแลตแสนอร่อยของพวกเขาในแต่ละหมายเลขวันที่ของปฎิทิน ซึ่งจะพาลูกค้าออกเดินทางไปกับเกม (Interactive games) และกิจกรรมต่างๆ โดยปฎิทินช็อคโกแลตนี้จะทำให้ลูกค้าตกเป็นทาสการตลาดได้อย่างง่ายดาย ด้วยการมอบรสชาติและประสบการณ์ที่มากกว่าการเป็นแค่ช็อคโกแลตธรรมดา
Johnnie Walker วิสกี้ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ได้เปิดตัววิสกี้ที่เชื่อมต่อระบบ Cloud เพื่อป้องกันการปลอมแปลงวิสกี้ โดยร่วมมือกับบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ด้านการพิมพ์ของนอร์เวย์ เพื่อหยุดการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ของตน ผ่านการทำ NFC Tag ที่ลูกค้าสามารถทราบอายุและตรวจสอบว่าวิสกี้ที่ซื้อมาเป็นของแท้ นอกจากนี้ Tag นี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถถ่ายทอดข้อความทางการตลาดไปยังลูกค้าผ่านระบบคลาวด์ได้
ImpacX บริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ได้ร่วมมือกับ Danone ซึ่งเป็นบริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนา Coach2O ฝาขวดน้ำอัจฉริยะ เป็นการช่วยเปลี่ยนจากขวดพลาสติกธรรมดาให้เป็นขวดอัจฉริยะ ผ่านการใช้ฝาอัจฉริยะที่สามารถนำไปติดเข้ากับฝาขวดน้ำที่มีอยู่ของ Font Vella ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำแร่สัญชาติสเปน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามระดับความชุ่มชื้นหรือการดื่มน้ำที่เพียงพอของตนได้ โดยมาคู่กับแอปพลิเคชันให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเป้าหมายในการดื่มน้ำแต่ละวันของตนเอง
จากที่กล่าวมาข้างต้นเทคโนโลยีได้แทรกซึมไปในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ นอกจากบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะจะสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ได้แล้ว ยังช่วยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มมูลค่าและความสามารถในการทำกำไรสำหรับผู้ผลิตและผู้ค้าปลีก
แหล่งที่มา